Botox

โบท็อกซ์ เป็นสารที่ทางการแพทย์นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ในการแก้ไขปัญหาของริ้วรอย ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ (Expression line) ซึ่งมีฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อ โดยการยับยั้งเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ที่ทําให้เกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น เมื่อเวลาที่เราขยับใบหน้า สารโบท็อกซ์นี้ เดิมทีคือ สารพิษชนิดหนึ่งที่ได้มาจากแบคทีเรียโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) จึงสามารถช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ที่เกิดขึ้นในเวลาที่มีการแสดงอารมณ์ เพราะต้องใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้า และใบหน้ามีการหดตัวมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าผาก หัวคิ้ว หางตา ริ้วรอย รอบริมฝีปาก เป็นต้น

นอกจากนี้แล้ว ยังพบว่านอกจากโบท็อกซ์จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ แล้วโบท็อกซ์ยังช่วยทําให้กล้ามเนื้อข้างเคียงบริเวณที่ฉีดเกิดการหดเกร็งตัวได้อีกด้วย ซึ่งผลอันนี้ จึงนํามาใช้ประโยชน์ในแง่ของการยกคิ้ว แก้ไขรูปคิ้ว ยกเปลือกตา แก้ไขรูปตา ที่แลดูโรย หมองเศร้าให้แลดูตาโตสดใสดูเหมือนเด็กได้อีกด้วย

นอกจากกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ ของใบหน้าแล้ว โบท็อกซ์ยังนํามาใช้ในการลดขนาดกล้ามเนื้อ มัดใหญ่ ๆ เพื่อลดขนาดได้อีกด้วย อย่างเช่น กล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ทําให้กรามดูใหญ่ และกล้ามเนื้อ บริเวณน่อง ในผู้ที่มีปัญหาน่องใหญ่ เป็นต้น

โบท็อกซ์จัดว่าเป็นสารแปลกปลอมในร่างกาย ดังนั้นเมื่อเราฉีดเข้าไปแล้วร่างกาย จะขจัดสารนี้ออกไปเองเมื่อระยะเวลาผ่านไป ซึ่งฤทธิ์ของมันก็จะคลายตัวลงตามไปด้วย ทําให้ต้อง ฉีดใหม่ ทุก 6-9-12 เดือน แล้วแต่บุคคลและตําแหน่งหรือปริมาณที่ฉีด และเมื่อฤทธิ์ของโบท็อกซ์ หมดลงแล้วก็ไม่ได้ทําให้ริ้วรอยกลับมาเป็นมากกว่าเดิม ในทางตรงข้าม กลับเป็นการป้องกันไม่ให้ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นเพราะเวลาแสดงอารมณ์นั้น พัฒนาไปจนกระทั่งเป็นริ้วรอยถาวรอีกด้วย

Filler

ฟิลเลอร์ คือสารที่ใช้เพิ่มปริมาณ (Volume) ใช้เพื่อเติมเต็มความบกพร่องของใบหน้าที่วงการแพทย์ เสริมความงามรู้จักกันมานาน เป็นสารที่ปลอดภัย ไม่เกิดอาการแพ้ สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ จึงไม่เป็นอันตราย หรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ซึ่งในท้องตลาดมีหลายชนิดหลายแบบให้เลือก แต่ที่นิยมฉีดกันมาก คือ ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic acid) สารตัวนี้บางทีก็ที่นิยมเรียกกันง่ายๆ ภาษาชาวบ้านว่า คอลลาเจน

ซึ่งจริง ๆ แล้วตัวมันเองไม่ใช่คอลลาเจนที่แท้จริง แต่สารตัวนี้ คือ สารธรรมชาติที่มีในเนื้อผิวของเองเราอยู่แล้ว ทําหน้าที่โอบอุ้มน้ำและความชุ่มชื้น คล้ายฟองน้ำทําให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น กระชับ เปล่งปลั่ง สดใส โดยปกติมีการนําสารตัวนี้ไปผสมอยู่ในเครื่องสําอางหลายชนิด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ของครีมบํารุงผิว ในวงการแพทย์ความงามก็ผลิตสารนี้ขึ้นมา จากการสังเคราะห์ โดยแบคทีเรียและทําให้เข้มข้นสูงกว่าธรรมชาติหลายเท่า เพื่อให้มีลักษณะคงตัว และสามารถใช้ฉีดเพิ่มปริมาณให้กับใบหน้า เพื่อช่วยทดแทน collagen ที่เริ่มเสื่อมสภาพ ทําให้ผิวเต่งตึง ลดริ้วรอยที่ลึกให้ตื้นขึ้น เติมร่องลึกให้หายไป ทําให้ใบหน้าดูอ่อนวัย สดใสขึ้น โดยมากนิยมเติมบริเวณ ร่องใต้ตา ร่องแก้ม มุมปาก สารตัวนี้คล้าย คอลลาเจน แต่ที่เหนือกว่ามากคือ สารตัวนี้ไม่ต้องทดสอบการแพ้ก่อนฉีด มีความปลอดภัยสูงมาก สารที่ฉีดจะสลายตัวช้า ๆ ภายใน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับ แต่ละบุคคล ถึงเวลาก็มาฉีดใหม่

ฟิลเลอร์เติมเต็ม

ฟิลเลอร์ สามารถใช้เติมตกแต่งรูปจมูกให้แลดูสวยงาม ได้รูป โดยมีข้อดีคือ สามารถใช้งานได้ทันที ไม่เขียวไม่บวม ไม่ต้องมีระยะพักฟื้นนาน เพียงแค่ 1-3 วัน จมูกก็จะดูเข้าที่ สวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่แลดูเหมือนทําศัลยกรรม และสามารถแต่งทรงเป็นรูปอะไรก็ได้ ถ้าไม่ชอบก็สามารถ แก้ไขใหม่ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถมาใส่เติมแต่ง จมูก ตา ในรายที่ทําการศัลยกรรมเสริมจมูกมานาน ๆ บางครั้งจะเจอปัญหาผิว รอบแท่งซิลิโคน แลดูแห้งและยุบตัวลง ทําให้ซิลิโคนที่เสริมไว้ แลดูเด่นออกมาชัดเจน หรือรูปทรงของจมูกที่เสริมไว้ มีลักษณะบิดเบี้ยวไม่ได้รูป ก็สามารถแก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ เติมแต่ง ให้แลดูอวบอิ่มและได้รูป โดยยังไม่ต้องซื้อ ทําใหม่อีกด้วย

Volume face lift ( ฟิลเลอร์เติมเต็มยกกระชับหน้า)

เนื่องจากโครงสร้างหน้าที่เปลี่ยนไป แต่ไม่มากมายนัก ในบางครั้งความหย่อนคล้อยของใบหน้า เกิดจากโครงสร้างหน้าที่เปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเกิดจากชั้นไขมันของใบหน้าทรุดตัวลง ดังนั้นการแก้ไข โดยการฉีด Filler เพื่อทดแทนชั้นไขมันที่สูญหายไป ก็จะช่วยปรับโครงสร้างรูปหน้าให้ยกกระชับขึ้นได้

Lipolysis (การสลายไขมันส่วนเกิน)

Lipolysis คือ การฉีดยาเข้าในชั้นไขมันใต้ผิวหนังโดยตรง เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน ลดเซลลูไลท์ ลดสัดส่วน ผิวกระชับ โดยไม่บวมมากเหมือน Meso Fat แบบเก่า

Lipolysis เมื่อถูกฉีดเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จะทําให้ผนังเซลล์ไขมันแตกออก เมื่อเซลล์ไขมันสลายไปก็จะถูก ขจัดออกทางระบบน้ำเหลือง

Lipolysis สามารถทําได้ทุกส่วนบริเวณของร่างกาย ไม่ว่า หน้าท้อง เอว ต้นขา ด้านนอก ต้นขาด้านใน กัน ต้นแขน หลัง หลังส่วนล่าง คางสองชั้น ร่องแก้ม แก้มย้อย หน้าอกของผู้ชาย น่อง

Lipolysis ก่อนการฉีดจะมีการทายาชาก่อน เพื่อทําให้เจ็บน้อยลงมากขณะฉีด อย่างไรก็ตามหลังฉีด จะมีอาการปวด ระบมเล็กน้อย และอาจบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะดีขึ้นในเวลา 1-3 วัน

การรักษาด้วย Lipolysis นั้นจะเห็นได้ว่าความหนาของชั้นไขมันลดลงและพิวกระชับขึ้น หลังการรักษาอย่างน้อย 3-5 ครั้ง ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นกับความหนาของชั้นไขมันของคนไข้ และการตอบสนองต่อยาและการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ของคนไข้ด้วย

หลังการฉีด Lipolysis ควรงดการออกกําลังกายประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจยังมีอาการระบม บวมแดง จากการฉีด Lipolysis อย่างไรก็ตามระหว่างการรักษาด้วย Lipolysis ควรควบคุมอาหาร และออกกําลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีจะได้คงอยู่ยาวนานต่อไป